เคล็ดไม่ลับ!! วิธีตั้งรหัสให้ปลอดภัย ไม่โดนแฮกเอาง่าย ๆ

วิธีตั้งรหัสผ่านอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่โดนแฮกง่าย ๆ

CMPRODEV.COM รับทำเว็บไซต์ เชียงใหม่ ขอแนะนำวิธีการตั้งรหัสผ่านสำหรับใช้งานบนเว็บไซต์ ให้มีความปลอดภัยอย่างสูงสุด เพื่อป้องกันการโดนแฮกข้อมูล

ปัจจุบันนี้มีหลายคนที่โดนแฮกเฟสบุ๊ค ซึ่งปัญหานั้นไม่ได้จากระบบของ facebook หรอกครับ แต่มาจากความประมาทของผู้ใช้งานเอง ซึ่งเกิดจากการตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย, ใช้รหัสผ่านเดิมกับทุก ๆ เว็บไซต์ จึงทำให้ง่ายต่อการโดนแฮกนั่นเอง เพราะระบบของเฟสบุ๊คหรืออะไรก็แล้วแต่นั้นไม่สามารถแฮกได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน

หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินข่าวผู้ใช้งาน facebook โดนแฮกเฟส หลาย ๆ เคสที่โดนกันมาจากการใช้รหัสผ่านเดียวกันทุกเว็บไซต์ ซึ่งมันง่ายต่อการโดนแฮกอย่างยิ่ง เช่น ท่านไปเล่นเว็บบอร์ดเว็บนึงแล้วสมัครสมาชิกไว้ และมีการตั้งรหัสเดียวกับรหัสที่ใช้กับเฟสบุ๊คของท่าน และสมมุติว่าเจ้าของเว็บเปิดดูข้อมูลอีเมล์และรหัสผ่านของท่านในฐานข้อมูลเว็บของเขาก็เสร็จเลย โดนแฮกแบบง่าย ๆ

ดังนั้นบทความนี้ CMPRODEV.COM รับทำเว็บไซต์ ใน เชียงใหม่ จะมาแนะนำวิธีการตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัยที่สุด หลักการในการตั้งรหัสผ่านบนเว็บไซต์ให้มีความปลอดภัยมีดังนี้

หลักในการตั้งรหัสผ่านสำหรับใช้งานบนเว็บไซต์ให้ปลอดภัยมีดังนี้

• ควรตั้งรหัสผ่านให้มีความยาว 8-16 ตัวอักษร
• รหัสผ่านควรเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก, ตัวพิมพ์ใหญ่ และมีตัวเลขผสมด้วย เพื่อยากต่อการคาดเดา
• ไม่ควรใช้รหัสผ่านเดียวกันทุกเว็บไซต์ เพราะเว็บไซต์ที่ท่านเคยใช้อาจจะไม่ปลอดภัย
• ไม่ควรใช้เบอร์โทรศัพท์ วันเกิด หรือชื่อจริงนามสกุลจริงเป็นรหัสผ่าน เพราะง่ายต่อการคาดเดา

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

• ท่านควรมีรหัสผ่านอย่างน้อย 3 ชุด แต่ละชุดควรแบ่งความสำคัญของการใช้งาน เช่น
  ชุดที่ 1 เอาไว้ใช้เล่นเว็บบอร์ด ใช้งานกับเว็บไซต์ทั่ว ๆ ไปที่ไม่มั่นใจในความปลอดภัย
  ชุดที่ 2 เอาไว้ใช้งานกับเว็บไซต์ดัง ๆ เช่น facebook, youtube, twitter, instagram เว็บไซต์เหล่านี้มีความปลอดภัยสูงและผู้ให้บริการมีความน่าเชื่อถือสูง จึงไม่ต้องห่วงเรื่องของการที่จะโดนแอบดูข้อมูลเหมือนเว็บไซต์ทั่ว ๆ ไป
  ชุดที่ 3 รหัสผ่านที่สำคัญที่สุดในชีวิต เช่น รหัสผ่านสำหรับล็อคอินเข้าระบบธนาคารออนไลน์เพื่อใช้สำหรับโอนเงิน เช็คยอดเงิน คุณอาจจะตั้งให้ยากที่สุดแต่อย่าจำสะจนจำไม่ได้นะ เพราะรหัสผ่านชุดนี้มีความสำคัญอย่างมาก ควรใช้เป็นรหัสผ่านอีเมล์, รหัสผ่านธนาคารออนไลน์, รหัสผ่านสำหรับบันชี Paypal  และที่สำคัญเลยคือไม่ควรนำรหัสผ่านชุดนี้ไปใช้กับเว็บทั่ว ๆ เด็ดขาด!!